Unintentional Brand Success: บางครั้งโชคก็อยู่ข้างเรา

Unintentional Success
Starbucks เขียนชื่อลูกค้าผิดCornflake เกิดจากลืมทิ้งข้าวสาลีไว้บนเตาSalt Bae ดังทั่วโลกในข้ามคืนจากคลิปโรยเกลือ

นี่คือตัวอย่างของ Unintentional Success ความสำเร็จที่ดูเหมือนมากับ “โชค” บ้างมาจากความผิดพลาด บ้างมาจากการละเล่นขำๆ…แต่กลับโดนใจผู้คนจนประสบความสำเร็จล้นหลาม 

เรื่องนี้มีส่วนคล้ายคลึงกับ Cunningham’s Law อยู่ไม่น้อย เพราะมนุษย์มีแนวโน้มที่จะ “จับผิด” มากกว่า “จับถูก”

อะไรที่ถูกสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว คนเรามักเฉยๆ

แต่อะไรที่ผิดพลาด ฟังดูไม่สมเหตุสมผล เราจะ take action ทำอะไรซักอย่างกับมัน…ซึ่งสุดท้ายกลายเป็น “ได้รับความสนใจ” มากกว่าสิ่งที่ถูกต้องเสียอีก!!

.

.

เราลองมาดูตัวอย่างของแบรนด์ / สิ่งประดิษฐ์ / ผู้คน ที่ประสบความสำเร็จชนิดที่เจ้าตัวเองเองก็ไม่คาดคิดกัน

ตัวอย่างความสำเร็จที่มากับ “โชค”  

Starbucks เขียนชื่อลูกค้าผิดจนกลายเป็น Unintentional Success

นี่คือตัวอย่างที่คลาสสิกมาก บ่อยครั้งที่เวลาลูกค้าสั่งเครื่องดื่ม Starbucks แล้วบาริสต้าสอบถามชื่อเพื่อเขียนลงบนถ้วยและเรามักได้รับชื่อที่เขียน…เกือบถูก

เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น “ทั่วโลก” เกิดเป็น Viral ของ Starbucks อยู่บ่อยครั้ง เพราะชื่อที่ได้รับมักสร้างความขบขันให้แก่ลูกค้าผู้รับ และเป็นลูกค้าเองที่มัก “ถ่ายรูปลงโซเชียล” ในเชิงตลกขบขัน สร้าง Free Media แบบเป็นกันเองให้กับแบรนด์

 Unintentional Success

Image Cr. bit.ly/2SIaqJw

ถึงกับเกิด #StarbucksNameFail ใน Twitter และ Instagram อยู่เรื่อยๆ เป็นระยะ

ส่วนเหตุผลที่เขียนผิดก็มีหลากหลาย เช่น ชื่อลูกค้าเขียนได้หลายแบบจริงๆ

  • Emily หรือ Emilee 
  • Brian หรือ Bryan

หรือบางทีบาริสต้าก็ยอมรับตรงๆ เลยว่ามาจากความเหนื่อยล้า ทำงานยิงยาวมา 5 ชั่วโมงแล้ว อาจเบลอๆ ฟัง-เขียนผิดๆ ถูกๆ

  • จาก Alan เป็น Alien / จาก Rick เป็น Lick
  • จาก Eric เป็น Evil / จาก Jeff เป็น Chef
  • จาก คุณโอม เป็น คุณโอ่ง / จาก คุณแพร เป็น คุณพระ 

สุดท้ายทางการ Starbucks ออกมาเปิดเผยแล้วว่าไม่มีนโยบายตั้งใจเขียนชื่อลูกค้าผิดแต่อย่างใด

ทางสถาบัน Brandwatch เคยทำการสำรวจเรื่องนี้ใน Twitter ในปี 2017 เป็นเวลาราว 1 เดือนครึ่งที่อเมริกาและอังกฤษ ก่อนพบว่ามีผู้คนพูดถึงกว่า 3,000 แฮชแท็ก

ถ้าคำนวณต่อ เทียบจากจุดเริ่มต้นในปี 2012 ที่ Starbucks ออกนโยบายอย่างเป็นทางการให้เขียนชื่อลูกค้า ตัวเลขอาจพุ่งไปถึง 75,000 แฮชแท็ก (ยังไม่รวมการ retweet) 

 Unintentional Success

Image Cr. bit.ly/2SIaqJw

แม้แต่ Oprah Winfrey เจ้าแม่วงการทีวียังเคยเอ่ยถึงการเขียนชื่อผิดของ Starbucks อย่างตลกขบขันกลางรายการของเธอ…เชื่อเลยว่าวันต่อมา ผู้ชมเป็นล้านของเธอจะต้องลองไปจ่ายเงินสั่งเครื่องดื่มที่ Starbucks เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้กับตัว 

Cornflake

ปี 1898 สองพี่น้อง William และ Dr. John Kellogg เผลอลืมทิ้งเมล็ดข้าวสาลีไว้บนเตานานเกินจนเหี่ยวย่น ด้วยความเสียดาย จึงนำไปใส่ในเครื่องบดหวังยืดให้เป็นแผ่น ปรากฏว่ามันได้กลายสภาพเป็นเหมือน “เกล็ดปิ้ง”

หลังจากนั้น จึงได้ลองเอาเมล็ด “ข้าวโพด” มาทำกรรมวิธีเดียวกัน เมื่อลองชิมพบว่ารสชาติไม่เลวเลย!! เมื่อให้คนอื่นลองชิมก็ได้รับคำชมว่าอร่อย… “คอนเฟลก” ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!!

ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพาณิชยกรรมเต็มรูปแบบ เป็นวัฒนธรรมอาหารเช้าของผู้คนทั่วโลกถึงปัจจุบัน

Microwave

ถ้าบรรพบุรุษมนุษย์ยุคหินของเราได้มาเห็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีอยู่ทุกครัวเรือนในปัจจุบันอย่าง “ไมโครเวฟ” พวกเค้าต้องมองว่านี่คือ “เวทมนตร์” แน่ๆ จากของแช่แข็ง ทำให้ร้อน มีกลิ่นหอมโชยพร้อมรับประทานในเวลาไม่กี่นาที

แต่จุดกำเนิดไมโครเวฟกลับเป็นเรื่องแสนบังเอิญ ปี 1945 วิศวกรอย่างคุณ Percy Spencer กำลังทดลองสร้างแมกนีตรอนที่ใช้ในระบบเรดาห์ วันหนึ่งขณะยืนอยู่หน้าเรดาห์ที่กำลังทำงาน แท่งช็อกโกแลตในกระเป๋าเสื้อเขาเริ่มละลาย ก่อนจะทดลองกับวัตถุอื่นๆ เช่น ไข่ และพบว่าระเบิดแตก

จากการทดลองอีกหลายรอบ เขาได้ข้อสรุปว่าคลื่นความร้อนมาจากสิ่งที่เรียกว่า “พลังงานไมโครเวฟ” (Microwave energy) และใช้เวลาอีก 2 ปีในการผลิตเครื่องไมโครเวฟเครื่องแรกของโลก ที่หนักถึง 340 กก. สูง 168 ซม. สนธิราคา 5,000 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐ

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอยู่เสมอ ไมโครเวฟมีน้ำหนักเบาลง ขนาดเล็กลง ราคาถูกลง แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น กลายเป็นเครื่องครัวพื้นฐานในชีวิตประจำวันของเราทุกวันนี้

Clubhouse

ต้นปี 2020 Clubhouse เป็นที่รู้จักแค่ในวงแคบๆ มีผู้ลงทะเบียนใช้แค่ 1,500 คน ผู้ใช้งานจริงราว 300 คน/วัน ยังไม่มีแม้แต่เว็ปไซต์ของตัวเอง มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท 

แต่พอต้นปี 2021 หลังจาก “Elon Musk” ได้เอ่ยถึง Clubhouse อยู่บ่อยๆ เช่น ชวนปูติน และ Kanye West เปิดห้องสทนาพูดคุยกัน ก็ทำให้ Clubhouse โตระเบิดขึ้นแท่นยูนิคอร์น ยอดผู้ใช้งานแตะ 10 ล้านคน ขึ้นแท่นแอพโซเชียลมีเดียที่ถูกดาวโหลดมากที่สุด และล่าสุดเปิดให้ดาวโหลดผ่านระบบ Android แล้ว

Clubhouse ได้กลายเป็นแอพที่พวกเราหลายคนน้อมรับมาใช้งานในชีวิตประจำวันถึงทุกวันนี้

Salt Bae

ปี 2017 เชฟชาวตุรกีคนหนึ่ง ที่ภายหลังมีสมญานามว่า “Salt Bae” โพสคลิปส่วนตัวของเขาสั้นๆ ลงในโซเชียลมีเดียถึงลีลาท่วงท่าการ “โรยเกลือลงบนเนื้อสเต๊ก”

  • มันไม่ใช่คลิปวิดีโอโปรโมทสินค้า
  • ไม่ใช่การแสดงที่ใช้ต้นทุนสูง
  • ไม่ใช่การหิวแสงอยากเด่นอยากดัง

…จะว่าไปมันดูเป็นคลิปสั้นๆ ที่อัดไว้โพสขำๆ กวนๆ ซะมากกว่า

Image Cr. nbcnews.to/3c7xmZF

แต่ใครจะไปรู้ว่า คลิปสั้นๆ ในวันนั้น จะทำให้เชฟคนนี้ที่มีชื่อเสียงแค่ในระดับเมืองของเขา…กลายเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จระดับโลก!!

เกิดการเลียนแบบท่วงท่าการโรยเกลือ / การทำมีม (Meme) / การถูกพูดถึงจากสื่อและเหล่าคนดัง และเหนือสิ่งอื่นใด การได้รับเกียรติบินไปนั่งรับประทานถึง “Nusr-et Steakhouse”  ร้านอาหารของเขาจากเหล่า “คนดัง” มีชื่อเสียงระดับโลก

คนดังเหล่านี้ก็ดังไม่เท่าไรเอง อาทิเช่น David Beckham / Cristiano Ronaldo / Michael Phelps / Jason Statham / Leonardo Dicaprio และอีกมากมาย

 Unintentional Success

Image Cr. bit.ly/3wMvYno

แน่นอน คนดังเหล่านี้ “ถ่ายรูปคู่-อัดคลิปวิดีโอ” ท่วงท่าการโรยเกลือของ Salt Bae ลงโซเชียลของแต่ละคน ได้ Free Media ชนิดประเมินค่าไม่ได้

ทุกวันนี้ Salt Bae เป็นเชฟที่มีความมั่งคั่งทะลุหลักพันล้านบาท ผู้คนต้องจองคิวล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ ก่อนไปกินร้านในเครือของเขา และกลายเป็นสถานที่ที่มีโอกาสพบปะคนดังในหลากหลายวงการ ทั้งศิลปินดารา / นักร้อง-นักแสดง / นักธุรกิจ / นักกีฬา / นักการเมือง ฯลฯ

พื้นฐานที่ต้องมี…เพื่อให้โชคมาเข้าข้าง?

จากตัวอย่างเหล่านี้ แม้จะดูเหมือนโชคเข้าข้าง (ซึ่งก็เข้าข้างจริง) แต่อย่างน้อยเราจะสังเกตว่าต้องมีพื้นฐานบางอย่างอยู่ก่อนแล้ว

ต้องมี “ทักษะ” ความสามารถเป็นทุนเดิม หรือมี “มาตรฐาน” บางอย่างที่รัดกุมอยู่ก่อนแล้ว 

Starbucks มีนโยบายเขียนชื่อลูกค้าบนถ้วยกาแฟมาตั้งแต่ปี 2012 เป็นเจ้าแรกๆ (First mover) ในตลาดก็ว่าได้ กลายเป็น “วัฒนธรรม Starbucks” ที่แข็งแกร่งอย่างหนึ่งและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเกิดความผิดพลาดเลินเล่อเล็กๆ น้อยๆ ลูกค้าจึงมองเป็นเรื่องตลกขบขันไป

ผู้คิดค้น Cornflake อย่างสองพี่น้อง William และ Dr. John Kellogg ก็เป็นนักโภชนาการอยู่ก่อนแล้ว รู้ว่าร่างกายควรต้องได้รับสารอาหารอะไรบ้าง มีองค์ความรู้เชิงลึกด้านแพทยศาสตร์ / สุขภาพ / สายพันธุ์ของพืชผักผลไม้นานาชนิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ส่วน Clubhouse ก็มีกิมมิคการตลาดที่เรียกพื้นที่สื่อได้มากคือ “Invitation-Only” ต้องถูกเชิญเท่านั้นถึงจะเล่นได้ สร้างความรู้สึก Exclusive เข้าไปใหญ่ แถมแตกต่างจากแอพอื่นในตลาดเพราะ “ไม่มีการบันทึก” ดูย้อนหลังไม่ได้ พลาดแล้วพลาดเลย และการใช้แค่ “เสียง” ในการสื่อสารเท่านั้น ก็ลด Pain Point ให้กับหลายคนได้ 

Salt Bae เป็นเชฟในวงการที่ประสบความสำเร็จอยู่ก่อนแล้ว เขาเข้าครัวฝึกปรือฝีมือมาตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี เรียกว่าเขามีทักษะ-มีคุณสมบัติเป็นเชฟครบทุกข้อ ก่อนจะใส่ “ศิลปะ” ลงไปในการนำเสนออาหาร เป็น “ประสบการณ์” เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มอบให้แก่ลูกค้า

ต้องไม่ลืมว่า การทำเรื่องยากให้ดูง่าย…ก็ว่ายากแล้ว

แต่การทำเรื่องยากให้ออกมาดูขี้เล่นกวนๆ กลับยากยิ่งกว่า…ยากขั้นสุด!!

Unintentional Success “โชค” จะอยู่ข้างเรา…ก็ต่อเมื่อเรามีความพร้อมระดับหนึ่ง

.

.

ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ จะได้ทำงานอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com

ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/


อ้างอิง

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

Bystander Effect
Bystander Effect : สาเหตุที่พนักงานมีความลับแล้วไม่บอกบริษัท
ที่มาของ “ไทยมุง” มัวแต่ยืนดู…แต่ไม่มีใครช่วยสาเหตุที่บริษัทเปลี่ยนแปลงยาก แม้ทุกคนจะรู้หน้าที่พนักงานทุกคนรู้ปัญหาดี แต่ทำไมไม่มีใครพูดเปิดประเด็น?เหตุการณ์น่าเป็นห่วงเหล่านี้มีสาเหตุทางจิตวิทยาเหมือนกันที่เรียกว่า...
Scout Mindset
Scout Mindset : เข้าใจปัญหาด้วยการเฝ้ามองอยู่เงียบ ๆ ห่าง ๆ
เคยสงสัยไหม? ทำไมผู้บริหารบางคนถึงมองปัญหาได้ทะลุปรุโปร่ง “อ่านเกมขาด” ทั้งๆ ที่ดูก็ไม่ได้มีความสามารถเลิศเลอเหนือไปกว่าใคร? แม้ผู้บริหารท่านนั้นไม่ได้มีทักษะพิเศษ...
การประเมินผลการทำงาน
เตรียมตัวให้พร้อม : เคล็ดลับรับมือการประเมินผลการทำงานช่วงสิ้นปีอย่างมืออาชีพ
การประเมินผลการทำงาน คืออะไร?การประเมินผลการทำงาน คือกระบวนการประเมินผลงานของพนักงานอย่างเป็นทางการ โดยจะมีเกณฑ์ตรงกลางที่บริษัทตั้งไว้ และพนักงานจะถูกประเมินโดยหัวหน้างานหรือคนที่เกี่ยวข้องกับตัวเองในการทำงาน...