ก่อน “ลาพักร้อน” ต้องรู้ ! วิธีจัดการงานและตัวเองให้หยุดยาวอย่างสบายใจ 

ลาพักร้อน

ลาพักร้อนนี่แหละความสุขของพนักงาน

คงมีหลายคนที่ทำงานมาตลอดปี และอดทนรอเวลาที่จะได้ใช้วันลาของตัวเองเพื่อไปพักร้อนยาวๆ สัก 1 ทริป บอกเลยว่าการ “ลาพักร้อน” น่าจะเป็นความสุขของพนักงานหลายคน อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าที่จะได้พักสมอง พักกาย และพักใจจากเรื่องการทำงาน ไปใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่ หลีกเลี่ยงอาการ Burnout

แต่ก่อนที่พนักงานจะลาพักร้อนอย่างสบายใจโดยไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ได้ ก็ควรที่จะต้องมีการจัดการงานให้เรียบร้อยเสียก่อน หากแต่ว่าถ้าจัดการได้ไม่ดี การลาพักร้อนครั้งนั้นก็อาจจะเหมือนเป็นการกดลาแบบฟรีๆ ที่ต้องพักไปทำงานไป ซึ่งมันคงไม่ได้ดีต่อสุขภาพจิตของพนักงานสักเท่าไร

สิ่งที่ต้องคิดก่อนกด “ลาพักร้อน

ก่อนที่จะตัดสินใจที่จะหาช่วงเวลาที่จะกดลาพักร้อน สิ่งที่พนักงานควรที่จะต้องคำนึงถึงและกังวลสักนิดก่อนที่จะเตรียมตัวลานั่นก็คือ

1. โอกาสที่จะมีงานค้างเกิดขึ้น

สิ่งนี้แทบจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรคำนึงถึงและเตรียมใจรับไว้ เนื่องจากในช่วงเวลาที่เราไม่อยู่หรือลาพักไป คนอื่นๆ ทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานก็อาจจะยังทำงานกันอย่างปกติเหมือนทุกวัน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าคงมีงานเพิ่มขึ้นมาในส่วนของเราที่เราต้องกลับมารับผิดชอบอย่างแน่นอน

2. ทำงานเสร็จไม่ทันก่อน ลาพักร้อน

ความกังวลนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่พยายามรีบทำงานทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่จะไปลาพักอย่างเต็มที่ เพียงแต่ว่าถ้าหากเราไม่สามารถเคลียร์ทุกงานให้เสร็จได้ล่ะ? สิ่งเหล่านี้ควรที่จะต้องรับมืออย่างไร และต้องหาคนช่วยเหลืออย่างไรบ้าง? นี่คือสิ่งที่พนักงานควรนึกถึงก่อนที่จะลาพักร้อน

3. การจัดการเวลาส่วนตัว

แน่นอนว่าเราต้องการที่จะลาไปพักร้อนเพื่อใช้เวลากับตัวเอง เพื่อนๆ หรือว่าคนที่เรารัก เพราะฉะนั้นคงไม่มีใครอยากที่จะให้งานเข้ามากระทบกับเวลาส่วนตัวของตัวเอง ดังนั้นสิ่งที่ควรคำนึงถึงอีกอย่างคือการจัดการเวลาส่วนตัว การสื่อสารให้คนที่ทำงานรับทราบถึงการลาพักของเรา เพื่อที่จะได้สร้างขอบเขตการรบกวนเรื่องงาน ไม่ให้มีการกระทบการพักของเรามากที่สุด

4. การกำหนดช่องทางการติดต่อ

คงเลี่ยงไม่ได้ที่ในที่ทำงานอาจจะมีเหตุการณ์เร่งด่วนที่ต้องติดต่อเรากะทันหัน หรือว่ามีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราที่เพื่อนร่วมงานไม่สามารถแก้ไขแทนได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรกังวลอีกอย่างคือการกำหนดช่องทาง หรือเวลาการติดต่อให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมงาน เพื่อทำให้ตัวเราเองไม่ได้ขาดการติดต่อกับที่ทำงานมากจนเกินไป

5. เตรียมใจให้พร้อมหลัง ลาพักร้อน

อย่าลืมว่าเราไม่สามารถพักไปได้ตลอด เพราะฉะนั้นนอกจากความสบายใจ ความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นเพราะรู้ตัวว่ากำลังจะได้พักร้อน อย่าลืมที่จะเตรียมใจอยู่เสมอว่าถ้าหากเราต้องกลับมาทำงาน เราควรที่จะต้องกลับมาอย่างมีความพร้อม การที่เราตระหนักรู้เสมอจะช่วยลดความรู้สึกวิตกกังวลหลังจากการพัก และทำให้เราสามารถกลับมาทำงานต่อได้อย่างมีพลังบวก

ก่อน “ลาพักร้อน” ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

คงไม่มีใครที่อยากจะเลื่อนการลาพักของตัวเองเพราะว่าทำงานไม่ทัน หรือว่าจัดการตัวเองไม่ทันทั้งในเรื่องส่วนตัวและการทำงาน เพราะฉะนั้นก่อนที่จะถึงวันลาหยุดยาวของตัวเอง เราควรวางแผนการเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อทำให้เราสามารถจัดการได้ทั้งเรื่องงานและสภาพจิตใจความพร้อมก่อนไปพักของตัวเอง

มาลองดูกันว่ามีอะไรบ้างที่พนักงานที่กำลังจะลาพักร้อนทุกคนควรเตรียมตัวเอาไว้ก่อนลาหยุดยาว

1. วางแผนและลงปฏิทิน

เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองต้องลาหยุดวันไหน อย่าลืมที่จะรีบลงปฏิทินเอาไว้ก่อนเพื่อแจ้งเพื่อนร่วมทีมและ stakeholders ที่เกี่ยวข้องให้ทราบว่าเรากำลังจะไม่อยู่ในวันไหนบ้าง และรีบทำงานค้างที่จำเป็นต้องมีความช่วยเหลือจากเราให้เสร็จก่อน

หลังจากที่รู้แล้วว่าจะหยุดวันไหน อย่าลืมที่จะเผื่อเวลาก่อนถึงวันหยุดเอาไว้นิดหนึ่ง เพื่อเคลียร์งานทั้งหมด เตรียมช่องทางการติดต่อ เตรียมสิ่งจำเป็นก่อนลาให้ครบ อีกทั้งถ้าหากจำเป็นต้องออกจากงานไวเพื่อเตรียมตัวพัก ก็ควรที่จะทำเพื่อทำให้การลาพักร้อนนั้นสมบูรณ์ที่สุด

นอกจากนี้ ก่อนที่จะกลับมา อย่าลืมเผื่อเวลาเอาไว้ในการ Catch Up งานทุกอย่างในระหว่างที่เราไม่อยู่ก่อนที่กลับมาเริ่มงานเต็มตัว เพื่อทำให้ตอนมาเริ่มงานจะได้ไม่ตื่นตระหนักหรือกังวลมากจนเกินไป

2. ติดต่อสื่อสารกับคนรอบข้างก่อนลา

ติดต่อเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า และคนที่ต้องทำงานด้วยที่มีความสำคัญหรือมีการติดต่อกับเราอยู่บ่อยครั้ง เพื่อแจ้งให้ทราบถึงวันที่เราจะลาพักร้อน ไม่เพียงแต่ว่าเพื่อนร่วมงานจะรู้สึกว่าเราให้ความสำคัญ แต่ว่าเพื่อนร่วมงานยังจะสามารถเตรียมตัวให้พร้อม และรีบดำเนินการในการทำงานที่ต้องทำร่วมกับเราให้เสร็จก่อนที่เราจะไม่อยู่

3. ส่งต่องานของตัวเองให้คนอื่นช่วยดู

เริ่มทำงานส่งต่องานให้กับเพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนร่วมทีม ที่สามารถรับผิดชอบงานของเราหรือตัดสินใจให้เราระหว่างที่เราไม่อยู่ได้ อย่าลืมที่จะทำโน้ตหรือว่าเตรียมไฟล์งานที่จำเป็นและสำคัญเอาไว้ เพื่อเป็นการ Facilitate ให้กับเพื่อนร่วมงานในการช่วยเหลือเราได้อย่างราบรื่น

ทั้งนี้ทั้งนั้นการถ่ายงานควรรีบทำเนิ่นๆ ก่อนที่จะลา เพื่อรับรองว่าเราและเพื่อนร่วมงานมีความเข้าใจตรงกัน และยืนยันว่างานที่จำเป็นมากๆ ทำสำเร็จไปแล้ว การเผื่อเวลาจะทำให้เมื่อถึงเวลาที่เราต้องลา เราจะได้ลาได้อย่างสบายใจ

4. ทบทวนทุกอย่างก่อนวันลา

เมื่อใกล้วันลามากๆ แล้ว อย่าลืมทบทวนงานที่เรา Handover ให้คนอื่นช่วยดู อีกทั้งอย่าลืมทบทวนว่าเราได้ทำการเคลียร์ความรับผิดชอบทุกอย่างเสร็จสิ้นดีแล้ว เพื่อที่จะได้ไม่ลืมอะไรที่สำคัญ และต้องกระวนกระวายใจในวันที่ตัวเองลาพักร้อนอยู่

อีกทั้งอย่าลืมทำ Checklist ให้กับตัวเองล่วงหน้าว่า ถ้าหากกลับมาจากการพักแล้วควรจะต้องทำอะไรเป็นอย่างแรก เพื่อทำให้กลับมาทำงานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

5. เมื่อถึงเวลาพัก ควรพักให้เต็มที่

เมื่อได้เวลาพักมาแล้ว อย่าลืมที่จะใช้เวลาพักอย่างเต็มที่ อย่าคิดเรื่องงานหรือกังวลเรื่องงานมากจนเกินไป ถ้าหากเราเตรียมตัวเอาไว้พร้อมอยู่แล้ว ก็ควรที่จะต้องไว้วางใจเพื่อนร่วมงานที่ช่วยเหลือให้มาก และใช้เวลาพักของตัวเองอย่างเต็มที่แบบที่ควรจะเป็น

ในวันที่ต้องกลับมาทำงานตามปกติ อย่าลืมที่จะนำ Checklist ของตัวเองมาทำตาม เผื่อเวลาไว้สักนิดเพื่อที่จะได้เตรียมตัวก่อนกลับไปทำงานจริง การลาพักร้อนไม่ได้ลำบากและน่ากังวลอย่างที่คิดถ้าหากเรามีการเตรียมตัวเองและการรจัดการงานที่ดี ก็จะทำให้การลาพักร้อนเป็นไปได้อย่างราบรื่น และไม่กระทบเพื่อนร่วมงานอีกด้วย


อ้างอิง:

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

6 นิสัยสำคัญ
6 นิสัยสำคัญที่จะทำให้ปี 2025 เป็นปีที่ดีที่สุดของคุณ โดย Ali Abdal
ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีพัฒนาตัวเองให้ชีวิตดีขึ้นในปี 2025 ลองมาดู 6 นิสัยสำคัญ ที่ Ali Abdal ผู้เชี่ยวชาญด้าน Productivity และเจ้าของช่อง YouTube ชื่อดังแนะนำไว้...
ลาพักร้อน
ก่อน "ลาพักร้อน" ต้องรู้ ! วิธีจัดการงานและตัวเองให้หยุดยาวอย่างสบายใจ 
ลาพักร้อนนี่แหละความสุขของพนักงานคงมีหลายคนที่ทำงานมาตลอดปี และอดทนรอเวลาที่จะได้ใช้วันลาของตัวเองเพื่อไปพักร้อนยาวๆ สัก 1 ทริป บอกเลยว่าการ “ลาพักร้อน”...
เทรนด์ HR
“จับตา 6 เทรนด์การทำงานในปี 2025 ที่ HR ต้องรู้”
ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้า เศรษฐกิจผันผวน และสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปี 2025 จะเป็นปีแห่งความท้าทายและโอกาสสำหรับวงการ HR ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลคาดการณ์ว่า...