“If You Should Fail” สำรวจความหมายของความล้มเหลวในชีวิตและวิธีที่เราสามารถเรียนรู้จากมัน หนังสือชี้ให้เห็นว่าความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งที่ควรกลัว แต่เป็นโอกาสในการเติบโตและค้นหาความหมายที่ลึกซึ้งขึ้น และการยอมรับความไม่สมบูรณ์สามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริง
ความล้มเหลวถูกผลักเป็นพลเมืองชั้นสองในโลกธุรกิจ น้อยคนที่อยากพูดถึงและน้อยยิ่งกว่าที่อยากสัมผัสความล้มเหลวโดยตรง
แต่ความล้มเหลวกลับให้มุมมองมิติอื่นแก่เราทั้งด้านธุรกิจและชีวิตในแบบที่คาดไม่ถึง
น่าสนใจไม่น้อยว่า…ทำไมคนเราถึงควรล้มเหลวบ้างซักครั้ง?
If You Should Fail : ล้มไปข้างหน้า
บางครั้งมันอาจไม่ใช่ความล้มเหลวในแบบที่เราคิด แต่เป็นการทดลองที่ไม่ได้ผล-ที่ยัง “ไม่ใช่” ต่างหาก?
- คุณรู้แล้วว่าวิธีนี้ไม่เวิร์ค…ก็ปัดทิ้ง
- คุณรู้แล้วว่าตลาดนี้ไม่ตอบรับ…ก็มองหาตลาดใหม่
- คุณรู้แล้วว่าสินค้านี้แก้ปัญหาผู้คนไม่ได้…ก็ออกแบบสินค้าใหม่
ก่อนที่ Thomas Edison จะประดิษฐ์หลอดไฟที่ใช้ได้ในเชิงพาณิชย์แพร่หลายไปทั่วโลก เขาลองผิด-ลองถูกมากกว่า 1,000 ครั้ง ที่เขาอดทนเดินหน้าต่อไปได้มากขนาดนี้เพราะมีทัศนคติว่า “การทดลองแต่ละครั้งไม่ใช่ความล้มเหลว…มันแค่เป็นอีกวิธีที่ไม่ได้ผล”
If You Should Fail : ล้มเพื่อถามตัวเอง
การล้มเหลวเป็นโอกาสดีในการย้อนกลับมา “สำรวจใจตัวเอง” นี่คือช่วงเวลาวัดใจว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ คือสิ่งที่คุณหลงใหลมี Passion กับมันจริงๆ หรือไม่?
เพราะสิ่งที่คนสำเร็จทุกคนมีเหมือนกันหมดคือ Passion ในสิ่งที่ทำ
- Cristiano Ronaldo มี Passion ในการเล่นฟุตบอล
- Elon Musk มี Passion ในการพามนุษย์ออกสำรวจอวกาศ
- Mark Zuckerberg มี Passion ในการเชื่อมผู้คนเข้าหากัน
- Bernard Arnault มี Passion ในการออกแบบแฟชั่นชั้นสูง
- Salt Bae มี Passion ในการสร้างสรรค์ศิลปะอาหาร
ถ้าคุณล้มและรู้สึกท้อแท้จริงๆ ชนิดที่ไม่อยากกลับไปทำอีกแล้ว เป็นไปได้ว่าไม่ใช่เพราะคุณหมดไฟ แต่สิ่งที่คุณทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ใจเรียกร้องต่างหาก?
Walt Disney เคยล้มเหลวจากวงการสื่อสำนักพิมพ์ ก่อนหันสู่วงการบันเทิงและสร้างโลกนิยาย Disneyland ในเวลาต่อมา เรียกได้ว่า ”จากล้มเหลว…สู่ความสำเร็จที่เกินจินตนาการ” ในที่สุด
ล้มเพื่อลุกขึ้นบิน
คุณท็อป จิรายุส คนหนุ่มผู้ก่อตั้ง Bitkub สตาร์ทอัพไทยที่โต 1,000% และถูกคาดหวังให้เป็น “Unicorn แรกของเมืองไทย” บอกว่า
ถ้าคุณล้มเหลว คุณมาถูกทางแล้ว เพราะคุณกำลังจะสำเร็จ
ไม่มีคนสำเร็จในโลก ที่ไม่เคยล้มเหลวมาก่อน
ไม่มีใครขี่จักรยานเป็น โดยไม่เคยล้มหัวเข่าแตกมาก่อน
ท้อเป็นเรื่องปกติ เครียดเป็นเรื่องปกติ ล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ
มันคือความเจ็บปวดที่ยอมรับได้และต้องผ่านไปให้ได้
- เวลาเราจะกระโดด…ต้องย่อเข่าให้ต่ำก่อน
- เวลาตลาดหุ้นจะไปต่อ…มักต้องปรับฐานลงมาก่อน
ดูเหมือนว่าความสำเร็จเองก็เช่นกัน ระหว่างทางต้องพบเจอกับความล้มเหลวน้อย-ใหญ่ แต่เมื่อผ่านมันไปได้และมองย้อนกลับมา อาจพบว่าเรามาไกลกว่าที่คิด
ล้มเหลวเพื่อเข้าใจชีวิต
เราอยู่ในโลกทุนนิยมที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งขัน
บางทีความล้มเหลวของคุณเกิดจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ หรือเจ้าใหญ่ที่ครอบงำตลาดไว้หมดแล้วจนยากที่คนตัวเล็กๆ อย่างคุณจะแจ้งเกิด
คนเราเกิดมาไม่ได้มีต้นทุนชีวิตเท่ากัน คนที่มีต้นทุนชีวิตด้อยกว่ามักพ่ายแพ้ให้กับคนที่มีต้นทุนชีวิตดีกว่า หรือคุณอาจคิดว่าตัวเองเก่งพอแล้ว แต่โลกยังมีคนเก่งกว่าคุณอีกเยอะ
บางครั้งแล้วต่อให้เราพยายามมากแค่ไหน ก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จอันดับ 1 ที่ปลายทาง
- มีนักบาสอีกหลายคนที่ฝึกซ้อมแทบตาย ก็สู้ Michael Jordan ไม่ได้
- มีนักเขียนอีกหลายคนที่แต่งเรื่องแทบตาย ก็สู้ J.K. Rowling ไม่ได้
- มีสตาร์ทอัพอีกหลายเจ้าที่พัฒนาแอพแทบตาย ก็สู้ Facebook ไม่ได้
- มีแฟชั่นดีไซเนอร์อีกมากที่ออกแบบเสื้อผ้าแทบตาย ก็สู้ Hermès ไม่ได้
- มีคอกาแฟอีกมากที่ปั้นร้านกาแฟแทบตาย ก็สู้ Starbucks ไม่ได้
ไม่ว่าอุตสาหกรรมไหนๆ คนสำเร็จมีเพียงหยิบมือเดียวดั่งยอดภูเขาน้ำแข็ง ขณะที่ใต้มหาสมุทรเต็มไปด้วยผู้พ่ายแพ้นับไม่ถ้วน ความพ่ายแพ้จึงเป็นส่วนหนึ่งของ “รสชาติชีวิต” ที่เราลิ้มรสรับประทานกับใครอีกหลายคน…ใต้มหาสมุทร
บทเรียนของ Failure
มนุษย์มีความแปลกอย่างหนึ่ง เรามักจดจำเรื่องร้ายๆ ได้ดีกว่าเรื่องดี
เรื่องที่เจ็บที่ไม่ชอบ จะวนเวียนในใจเรานานกว่าเรื่องที่ชอบ
การยอมรับความล้มเหลวเปรียบเสมือนเป็น Terms & Conditions ของการมีชีวิตอยู่ ถ้ายอมรับไม่ได้เราก็อาจไร้ซึ่งชีวิต?
มีปรัชญาญี่ปุ่นหนึ่งเรียกว่า “วาบิ-ซาบิ” 【侘寂】 ไม่มีอะไรไร้ที่ติสมบูรณ์แบบหรือคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์
ริ้วรอยบนใบหน้าตามวัย / รอยแตกร้าวของถ้วยชาม / คราบสกปรกผ่านกาลเวลา / และความผิดพลาดล้มเหลวในธุรกิจ…ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของความงดงามในชีวิตที่ควรโอบกอดทั้งสิ้น
ความล้มเหลวบอกเราว่า “นี่แหละมนุษย์” เราไม่ใช่หุ่นยนต์แสนเพอร์เฟกต์ ไม่ใช่ระบบอัลกอริทึมที่คำนวณทุกอย่างตรงเป๊ะจนไม่มีความผิดพลาด เราอาจเลือกที่จะเป็นมนุษย์ที่ล้มเหลวเป็น มากกว่าหุ่นยนต์ที่ล้มเหลวไม่เป็นแต่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ
สุดท้ายเราให้บทเรียนความล้มเหลวเป็นเหมือนการเล่นกล้ามได้ การจะสร้างกล้ามเนื้อให้ใหญ่ขึ้นไปอีกระดับนึง เราจำเป็นต้องเล่นให้หนักจนรู้สึก “เจ็บปวดเมื่อยล้า” ก่อนจะกลับไปนอนพัก กินอาหารเติมพลัง เพื่อที่จะกลับมาเจ็บใหม่ในวันต่อไป
อะไรที่ไม่ทำให้เราถึงตาย…มีแต่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นในที่สุด
.
.
ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…คุณพร้อมมีความสุขกับการทำงานในทุกๆ วันแล้วหรือยัง? >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/
ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com
ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/
อ้างอิง
- หนังสือ If You Should Fail โดย Joe Moran
- https://propertyupdate.com.au/six-famous-people-who-failed
- https://www.lifehack.org/articles/productivity/15-highly-successful-people-who-failed
- https://medium.com/@paultellsworth/the-benefits-of-failure-why-you-must-fail
- https://www.lifehack.org/articles/communication/8-reasons-why-you-should-fail-much
- https://www.forbes.com/sites/williamarruda/2015/05/14/why-failure-is-essential-to-success