ยิ่งสูง-ยิ่งหนาว…การ Exit ครั้งใหญ่ของเหล่า High Flyers

High Flyers
High Flyers เป็นกลุ่มคนเก่งอัจฉริยะ ที่คอยขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรทั่วโลก แต่ฉากหลังความสำเร็จ แฝงมาด้วยความเหนื่อยล้า Work-Life Balance สุดพังที่ทำลายความสัมพันธ์ส่วนตัว

คนนอก: เงินดี / การงานดี / ภาพลักษณ์ดี / มีคนรอบข้างคอยบริการ…ชีวิตดีมากแม่!!

คนใน: งานหนักจนไม่มีเวลาใช้เงิน / ทำงานวันละ 12 ชม. / วันหยุดไม่ได้หยุดจริง / กินข้าวเที่ยงบนโต๊ะ / ชีวิตด้านอื่นคือพัง..

“High Flyers” เป็นกลุ่มคนอัจฉริยะ พรสวรรค์ว่าเยอะแล้ว-พรแสวงเยอะกว่า พวกเราคือกลุ่มคนจำนวนเล็กๆ ที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังคอยขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรทั่วโลก

แต่ฉากหลังความสำเร็จ ปนเปื้อนมาด้วยความเหนื่อยล้าของใครหลายคน ความไม่พอดีของการงานที่ทำลายความสัมพันธ์ส่วนตัว จนเริ่มตั้งคำถามถึงการ Exit เพื่อมุ่งสู่หนทางอื่นที่ลงตัวกว่านี้

แต่คำถามคือ…แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเมื่อไรควรไป?

Unworthy Money

อย่างแรกเลย “ผลตอบแทน” ที่คุณได้ไม่คุ้มค่ามากพอ

จากผลการวิจัยที่อังกฤษในหมู่ผู้บริหารอายุต่ำกว่า 40 เผยว่า ในจำนวนนี้ กว่า 72% คาดหวังเงินที่เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ 1/4 ยอมรับว่า เคยลาออกจากบริษัทเก่าเพราะไม่ได้รับการโปรโมท ทั้งๆ ที่คิดว่าควรจะได้รับจากผลงานที่ตนสร้าง

นอกจากนี้งานที่หนักเกินจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น นำไปสู่ภาวะ “ทำงานจนหมดสภาพ” (Burnout) ซึ่งสร้างภาระให้สหรัฐอเมริกาประเทศเดียวถึงปีละ 300,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 9 ล้านล้านบาท อันเป็นผลต่อเนื่องที่นำไปสู่การขาดงาน, ผลิตภาพน้อยลง, ค่ายารักษา, การลาออก และอื่นๆ อีกมาก

เพราะยิ่งสูง งานยิ่งเยอะ ความรับผิดชอบยิ่งสูงตาม ต้องทำงานแทบตลอด วันหยุดไม่ได้หยุดจริงๆ บางคนกดดัน เครียด จนพบแพทย์กินยาและมีปัญหาสุขภาพตามมาในที่สุด

Too Many Noises

พลีชีพสร้างผลงานให้เบื้องบนเห็น แต่เงินเท่าเดิม ผลงานต้องมาก่อน และต้องโดดเด่นด้วยถึงจะได้ขึ้น

บางเคสเจอลักษณะ “ถูกใช้งาน” มีผลงานแต่กลับไม่ได้ขึ้น หรือได้ขึ้นแต่ไม่คุ้มกับผลงานชิ้นโบว์แดง-ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยที่ทุ่มหมดตัวไป

และที่ปฏิเสธไม่ได้คือ “การเมืองภายใน” ที่ต้องเล่นให้เป็น แต่ High Flyers บางคนเป็นสายการงาน ไม่ใช่สายการเมือง ความเก่งของคุณไปขัดผลประโยชน์ใครเข้า ก็โดนกลั่นแกล้งทางใดทางหนึ่ง สร้างความเบื่อหน่ายไม่น้อย

ผลสำรวจอดีตที่ปรึกษาจาก Boston Consulting Group ที่ออกมา ‘ทำเอง’ ได้ 7 ปีกว่าแล้วพบว่า เขาได้ทำโปรเจ็คท์ที่มีความหมายและน่าสนใจมากกว่าตอนอยู่บริษัทเสียเอง ทั้งยังไม่ต้องปวดหัวกับการเมืองภายในและการฟาดฟันแย่งเก้าอี้ตำแหน่ง ซึ่งบ่อยครั้งชวนปวดหัวกว่าเรื่องงานเสียอีก!

Mission Accomplished

หลายปีก่อน คุณเริ่มเข้าสายงานนี้จากการทำ “แบบประเมินอาชีพ” ของ CareerVisa พอรู้ว่าชอบอาชีพแนวนี้ ก็เลยบินสูงพุ่งทะยานมาทางนี้ >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ถึงตอนนี้คุณได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว ได้ลิ้มรสความท้าทายแล้ว สำเร็จแล้ว มีผลงานแล้ว พอมองไปรอบตัว มิติด้านอื่นของชีวิตก็ลงตัวโอเคแล้ว ทำไมต้องเหนื่อยทะลักทุเลขนาดนี้ต่อไปล่ะ?

High Flyers หลายคนไม่น้อยผ่านด่านมาถึงจุดนี้… 

เริ่มอยากใช้ชีวิตกลางๆ ไม่หนักไป-ไม่เบาไป ออกไปรับตำแหน่งอื่นที่อื่น เงินน้อยลงแต่ภาระหน้าที่ก็น้อยลงเช่นกัน และอาจเจอกับสมดุลชีวิตที่ใช่กว่า

ถ้าให้เล่าท้าวความก็คือ เมื่อก่อนคุณเลือกอาชีพนี้เพราะมันตรงกับ Values ในตอนนั้น แต่เวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน Values ณ ตอนนี้คุณเปลี่ยนไปแล้ว ก็สามารถกลับมาทำแบบประเมินใหม่ได้ เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ใน Stage ถัดไปของชีวิต

เช่น สมัยก่อนคุณยังไม่มีครอบครัว Values คือ หน้าที่การงานที่โตเร็วที่สุด มีเท่าไรใส่เต็ม เดินทางพบปะลูกค้าต่างประเทศ…แต่ตอนนี้มีครอบครัวแล้ว Values กลายเป็น Work-Life Balance ทำงาแต่พอเหมาะ แบ่งเวลามาให้ครอบครัว เน้นความมั่นคง

ขอแนะนำให้กลับไปทำ Career Assessment ใหม่ ทบทวนตัวเองอีกซักรอบ จะได้อาชีพใหม่ที่เหมาะสมกับชีวิตใหม่มากขึ้น รู้ว่า Next Chapter ควรเดินไปทางไหนต่อ..

(More & Bigger) Outside Opportunities

High Flyers หลายคนเมื่อถึงวัยอันควร เก็บเกี่ยวประสบการณ์ความรู้ความสามารถและเงินทุนได้มากพอแล้ว ก็ออกมาเดินตามความฝันของตัวเอง

เปิดบริษัท / ลงทุนในสตาร์ทอัพ / ผันมาเป็นที่ปรึกษาอิสระ 

ผลวิจัยที่อังกฤษเผยว่า เศรษฐกิจแบบรับจ้างทำงานเป็นครั้งๆ (Gig Economy) มาจากกลุ่มแรงงานมีฝีมือ-มีทักษะความรู้ ถึง 59%

การออกมาทำเองไม่ใช่เรื่องใหม่…

ผลการสำรวจจาก London Business School ในหมู่ที่ปรึกษากว่า 400 คน เผยว่า กว่า 90% เลือกที่จะออกมาทำเอง และ “พึงพอใจ” กับชีวิตภาพรวมมากกว่าตอนเป็นลูกจ้างบริษัท(ที่ปรึกษาใหญ่) และได้เงินในระดับเทียบเท่าหรือสูงกว่าด้วยซ้ำ 

อดีตผู้บริหารจาก McKinsey ท่านหนึ่งเผยว่านี่คือจุด “Sweet Spot” ที่ลงตัวมากระหว่างชีวิต-การงาน เขามีเวลากับครอบครัวมากขึ้น คุณภาพชีวิตด้านอื่นสมดุลขึ้น เมื่อภายในดี-ภายนอกก็ดีตาม เขารู้สึกมีสมาธิและให้คำปรึกษาลูกค้าได้ดีกว่าเดิม สร้าง impact ได้มากกว่าเดิม ซึ่งนั่นคือจุดสุดยอดของอาชีพที่เขาจะไม่กลับไปทำในองค์กรอีกแล้ว..

.

.

ก่อนจะเป็น High Flyers ต้องมีเป้าหมาย รู้ว่าอยากทำงานอะไร? ทำ “แบบประเมินอาชีพ” ของ CareerVisa เพื่อค้นหาสายอาชีพที่ใช่ ก่อนบินสูงร่วมฝูงกับ High Flyers คนอื่นๆ >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

อ้างอิง

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

openai
ข่าวดี! OpenAI Academy เปิดให้เรียนรู้ AI ฟรีแล้ววันนี้!
CareerVisa ขอแนะนำแพลตฟอร์มใหม่จาก OpenAI ที่เปิดโอกาสให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ครู ผู้ประกอบการ หรือผู้ที่สนใจทั่วไปก็สามารถเรียนรู้และใช้งาน AI ได้อย่างมั่นใจ...
discipline
ฝึกตัวเองให้มีวินัยขั้นสุดยอด อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ได้ด้วยสิ่งนี้ โดย Andrew Huberman
สำหรับใครที่รู้สึกว่าควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ ไม่มีวินัยเอาซะเลย วันนี้ CareerVisa จะมาเล่าให้ฟังแบบบ้านๆ เรื่องอยากมีวินัย (discipline) ให้ฟังว่าทำยังไงถึงจะฝึกวินัยได้แบบเป็นวิทยาศาสตร์...
Kelly McGonigal
"เครียดยังไงให้กลายเป็นพลังบวก" สรุปแนวคิดจาก Kelly McGonigal นักจิตวิทยาด้านสุขภาพและผู้เขียนหนังสือ "The Upside of Stress"
วิธีคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนมุมมองต่อความเครียดเพื่อใช้มันเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตัวเอง 1. มองความเครียดเป็นพลัง ความเครียดไม่ใช่สิ่งที่ต้องกลัว การเชื่อว่าความเครียดช่วยเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมรับมือความท้าทาย...