นี่คือคำถามที่ John Paul Flintoff พูดไว้บนเวที TedTalk ซึ่งทำให้ผู้ฟังทั่วโลกฉุกคิด
คำถามข้อ 1 ช่วยให้คุณ “คิดการใหญ่” โดยไม่กลัวต่ออุปสรรค ซึ่งหลายคนได้ให้คำตอบอันน่าประทับใจ เช่น “หาทางรักษาโรคเอดส์”
คำถามข้อ 2 ช่วยคุณในการ “เริ่มต้น” จากสิ่งเล็กๆ ที่พอจะทำได้ทันที มันอาจเป็น “เริ่มต้นหาความรู้เชิงลึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับเอดส์”…ใครจะไปรู้ว่าก้าวแรกเล็กๆ อาจนำไปสู่การค้นพบหนทางรักษาเอดส์ในอนาคตอีก 10 ปีจากนี้ก็ได้!
มันเป็นคำถามที่นำไปสู่ความกล้าหาญของ “คนธรรมดา” คนหนึ่งในการคิดอยากเปลี่ยนแปลงโลกเพื่อไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยเราสามารถเริ่มต้นได้โดยใช้ 7 ข้อเหล่านี้เป็นตัวนำทาง…
1. เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ (Start Small)
คุณ “คิด” การใหญ่ได้แต่ควรเริ่ม “ทำ” จากสิ่งเล็กๆ แล้วค่อยก้าวไปทีละขั้น
นี่คือเคล็ดลับที่ Muhammad Yunus เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพใช้ในการคิดค้น Micro Finance เพื่อปล่อยกู้แก่คนยากจนในประเทศกำลังพัฒนา โดยเขาเริ่มต้นด้วยเงินตัวเองเพียง $27 ก่อนพบว่าเงินจำนวนแค่นี้ช่วยคนได้มากถึง 42 คน
จากสิบเป็นร้อย-จากร้อยเป็นพัน การช่วยของเขาขยายสเกลใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่การก่อตั้งธนาคาร Grameen Bank ซึ่งเมื่อถึงปี 1997 ได้ปล่อยกู้ไปแล้วกว่า $6,300 ล้าน ให้กับคนยากจนกว่า 7,400,000 คน ในการประกอบอาชีพ เริ่มต้นสร้างเนื้อสร้างตัว สุดท้ายช่วยให้หลายคน “หลุดพ้น” จากความยากจนในที่สุด
2. เป็นเพื่อนบ้านที่ดี (Be a Good Neighbor)
คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทั่วโลก หรือพบปะบุคคลสำคัญเสมอไป แต่สามารถสร้าง Impact (และได้รับ Impact) จากเพื่อนบ้านจากผู้คน “บ้านใกล้เรือนเคียง”
ตอนที่ John Paul Flintoff ขึ้นพูดบนเวที TedTalk เรื่องการป้องกันภาวะโลกร้อน (Global Warming) เขาเล่าว่าเริ่มจากเดินไล่ไปทักทายเพื่อนบ้านแถวที่อยู่อาศัยทุกหลัง
แต่เขาไม่ได้เข้าหาด้วยท่าทีกดดันหรือโยนงานวิจัยที่เต็มไปด้วยข้อมูลตัวเลขที่สนับสนุนความคิดเค้า แต่กลับหยิบยื่น “ต้นมะเขือเทศ” ให้ไปปลูกฟรีๆ
เขาทำแบบนี้อยู่หลายปี จำนวนต้นมากขึ้น หลากหลายพันธุ์ขึ้น ที่น่าสนใจคือ หลังจากนั้นเพื่อนบ้านหลายคนเริ่มที่จะ “ปลูก” ต้นไม้นานาชนิดด้วยตัวเองแล้ว ซึ่งช่วยลดภาวะโลกร้อน(ในสเกลเล็กๆ)แถวย่านนี้ และที่แน่นอน ช่วยให้สภาพแวดล้อมสดชื่นสวยงามขึ้นมาก
อะไรที่คุณเริ่มต้นทำได้ทันทีหน้าบ้าน? (หรือละแวกบ้าน?)
3. เน้นย้ำประเด็นสำคัญ (Highlighting an Issue)
คุณคิดว่ามีประเด็นสำคัญเรื่องไหนที่ไม่ได้รับความสำคัญมากพอหรือไม่ได้รับการพูดถึงในกระแสหลักไหม? ถ้ามีล่ะก็…อย่างแรก จงหาความรู้ใส่ตัวให้รอบด้านเกี่ยวกับเรื่องนั้น คุณต้องรู้จริงก่อน แล้วค่อยไป “ป่าวประกาศ” เน้นย้ำความสำคัญให้ทุกคนได้รับรู้ซะ
ซึ่งยุคนี้เราทุกคนสามารถเป็นสื่อเล็กๆ ได้เพราะมีโซเชียลมีเดีย ทำให้ประเด็นนี้กลายเป็นกระแส Viral ได้ง่ายกว่ายุคก่อนมาก
4. ลองมีน้ำใจเล็กๆน้อยๆ กับผู้อื่น (Practice Random Acts of Kindness)
ความมีน้ำใจแม้จะเล็กน้อยแต่กลับสร้าง “แรงกระเพื่อม” ที่ส่งต่อจากคนแล้วคนเล่าได้ และทำให้วันธรรมดากลายเป็นวันที่พิเศษขึ้นมา(นิดนึง)ได้ทันที
ทำอย่างไร? ง่ายๆ เลยในชีวิตประจำวัน เดินผ่านใครลองส่งยิ้มเล็กๆ ให้ / เปิดประตูค้างไว้ให้คนเดินตามหลังเข้า / เลี้ยงข้าวแกงเพื่อน / ซื้อกาแฟให้คิวคันหลังในช่อง Drive-Thru / โอนเงินบริจาคมูลนิธิต่างๆ…เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้เป็นวันที่แสนดีขึ้นมาได้แล้ว
เรื่องนี้มีผลวิจัยรองรับ แค่ความมีน้ำใจแสนเล็กน้อยที่ได้รับ ก็ทำให้ร่างกายหลั่งสารออกซิโทซิน (Oxytocin) ที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขอิ่มเอมและมองโลกในแง่บวกขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์
5. จ่ายเงินกับสิ่งที่มีอุดมการณ์ตรงกับคุณ (Let Your Values Guide Your Spending)
ลองอุดหนุนเป็น “พิเศษ” กับธุรกิจที่ยึดมั่นในความเป็นธรรม มีอุดมการณ์ที่ดีต่อสังคมบางอย่าง หรือง่ายๆ ธุรกิจที่มีครบทั้ง 3P (People, Planet, Profit)
ลองศึกษาบริษัทหรือสินค้าที่คุณซื้อประจำว่า…
- กว่าจะมาเป็นสินค้าตรงหน้าต้องผ่านอะไรมาบ้าง (วัสดุรักษ์โลกไหม?)
- รายได้เอาไปช่วยเหลือองค์กรไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า? (คิดถึงสังคมไหม?)
เรื่องนี้จะเกิดผลถ้า “คนหมู่มาก” ทำกัน เพราะแบรนด์จะปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ถ้าผู้บริโภคแคร์สิ่งแวดล้อม…แบรนด์จำเป็นต้องแคร์สิ่งแวดล้อมตาม มิเช่นนั้น คนก็ไม่ซื้อ หรือหันไปซื้อแบรนด์อื่นที่แคร์แทน
6. นั่งสมาธิ (Meditate)
แม้ดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงจากภายใน แต่ออร่าที่เปล่งออกมาจากตัวคุณจะส่งผลถึงคนภายนอกรอบตัวด้วย
มีผลสำรวจมากมายระบุว่า อัตราการเกิดอาชญากรรมลดลงอย่างมีนัยสำคัญในชุมชนที่ผู้คนอย่างน้อย 1% นั่งสมาธิอย่างเป็นประจำ
เรื่องนี้ไม่ต้องบอกพวกเราก็รู้ การนั่งสมาธิช่วยให้เราสงบสุข เกิดสันติภาพในใจ สุขอิ่มเอมลึกๆ ข้างใน และช่วยให้สมองปลอดโปร่งคิดไอเดียดีๆ ได้ในที่สุด
7. เป็นตัวของตัวเองในทุกเรื่อง (Be Authentic in Everything You Do)
เพราะทุกคนมีความแตกต่างไม่เหมือนใครซักคน ทั้งร่างกาย ทัศนคิต ความคิด คุณค่าที่ยึดถือ การเป็นตัวของตัวเองในทุกเรื่องจะทำให้คุณอยู่ในที่ลงตัวที่สุด ทำได้ดีที่สุดและมีความสุขที่สุดในแบบของคุณเอง
.
.
ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…คุณพร้อมมีความสุขกับการทำงานในทุกๆ วันแล้วหรือยัง? >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/
ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com
ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/