ในวันที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี มีบริษัท Tech มากมายที่เติบโตเป็นดอกเห็นและต้องการว่าจ้างพนักงานอยู่หลายอัตรา ซึ่งในส่วนนี้ก็ส่งผลให้มีหลายคนสนใจในการทำงานในบริษัท Tech มากขึ้นด้วยอีกเช่นกัน ในทางกลับกันไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำตำแหน่งงานในสายนี้ได้ เราต้องพัฒนาและฝึกฝนตัวเองให้ตรงตามความต้องการของตำแหน่งนั้น ๆ
เนื่องจากมีพนักงานหรือคนทำงานหลายคนที่สนใจตำแหน่งงานในบริษัท Tech การที่คน ๆ หนึ่งจะได้งานก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเท่าที่คิด เราตอ้งมีทักษะที่โดดเด่นกว่าคนอื่น ซึ่งทักษะเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้จากการพัฒนาตนเอง การฝึกฝนทักษะที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการลงคอร์สเรียนหรือฝึกฝนจากประสบการณ์การทำงานของตัวเอง
วันนี้ CareerVisa จึงอยากจะมาเป็น Top 5 Skills ที่พนักงานที่อยากทำงานในสาย Tech ควรมีติดตัวกันไว้ ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถหมั่นฝึกฝนได้ด้วยตนเอง มาดูกันว่ามีทักษะอะไรบ้าง
[5 Tech Skills ที่คนทำงานในสาย Tech ควรมีติดตัว]
1) Data Storytelling : ไม่ใช่แค่การนำข้อมูลมาเล่า ๆ ให้ฟังเฉย ๆ แต่ Data Storytelling จะรวมตั้งแต่การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การนำข้อมูลมาจัดให้อ่านง่ายขึ้น และการนำเสนอ ทั้งหมดนี้เป็นทักษะที่ค่อนข้างสำคัญและไม่ใช่ทุกคนที่จะนำ Data มาวิเคราะห์และอธิบายให้เข้าใจง่าย ซึ่งในการทำงานสาย Tech การเล่า Data ให้ Stakeholders ฟัง เป็นเรื่องที่ควรทำออกมาได้ดี ซึ่งใครมีทักษะส่วนนี้ก็จะได้เปรียบค่อนข้างมาก
ทักษะส่วนนี้ก็จะรวมไปถึงการทำ report การออกแบบ Data Visualization โดยที่หากมีทักษะการใช้เครื่องมืออย่าง Tableau หรือ PowerBI ก็จะค่อนข้างทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น
2) Cybersecurity : หลาย ๆ Industry เริ่มหันมาใช้ Technology เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานมากขึ้น หนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรมการเงิน ซึ่งข้อมูลด้านการเงินของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญและต้องถูกรักษาไว้ให้ดี หากมีการผิดพลาดหรือข้อมูลรั่วไหล ก็จะทำให้บริษัทเสียหายเป็นมูลค่าหลายหลักได้อยู่
ซึ่งในส่วนนี้คนที่เป็น Cybersecurity specialist หรือคนที่มีทักษะความรุ้ด้านการปกป้องข้อมูลอย่างละเอียด จึงเป็นที่ต้องการอย่างมากในบริษัท FinTech หลาย ๆ บริษัท เพราะข้อมูลเป็นส่วนสำคัญ คนรักษาข้อมูลจึงต้องมีความชำนาญมาก ๆ เช่นกัน
3) Machine Learning (ML) and Artificial Intelligence (AI) : ในยุคสมัยนี้ ML และ AI เข้ามามีส่วนหนึ่งในชีวิตอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยเหลือในธุรกิจหลากหลายธุรกิจ หรือการใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มประสบการณ์การซื้อที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นคนที่พัฒนาเทคโนโลยีส่วนนี้ จึงเป็นบุคคลสำคัญและเป็นที่ต้องการในบริษัทหลาย ๆ บริษัท โดยเฉพาะบริษัท Tech
ซึ่งทักษะสำคัญที่คนที่จะเรียนรู้ ML และ AI ได้ ในก็คือทักษะการเขียนโปรแกรม หรือ Programming languages และทักษะการทำ Data analysis ซึ่ง 2 ทักษะนี้ สามารถพัฒนาได้ด้วยการเรียนรู้ด้วยตัวเองได้เหมือนกัน
4) User Experience (UX) Design : เพราะเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตทุกคน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าใจมันได้ หรือใช้งานมันได้อย่างถูกต้องทุกประการ คนที่เป็น UX Designer เลยค่อนข้างสำคัญในส่วนนี้ เพราะต้องเป็นคนที่ทำให้เทคโนโลยีนั้น Friendly และสามารถเข้าถึงง่ายมากขึ้นกับทุก ๆ คน
ซึ่งหน้าที่ของคนที่ทำ UX Design คือคนที่ออกแบบให้ภาพของสินค้าหรือบริการนั้นสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น และใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น Mobile banking application เป็นต้น ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะทำความเข้าใจ Customer journey ทั้งหมดได้ เพราะฉะนั้นหากเรามีทักษะด้านนี้ก็จะเป็นที่ต้องการอย่างมากเลยทีเดียว
5) Cloud Computing : มูลค่าของการลงทุนกับ Cloud หรือการระบบเก็บข้อมูลค่อนข้างมีสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะมันคือส่วนหนึ่งในการส่งต่อข้อมูลเพื่อให้พร้อมรับกับระบบ Digital การประมวลผลแบบ Cloud เลยเป็นสิ่งที่สำคัญและต้องจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างมาก
เพราะฉะนั้นคนที่มีทักษะเข้าใจเรื่องระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ Cloud จึงเป็นที่ต้องการอย่างมากในบริษัท Tech ที่มีการพัฒนาระบบเหล่านี้ ทักษะที่สำคัญที่ควรมีก็อย่างเช่นการเรียนรู้โปรแกรม อย่าง SQL และ Linux และ การจัดการฐานข้อมูล ความเข้าใจ AI และ ML และเทคโนโลยีคลาวด์ เช่น AWS, Google, Oracle และ Microsoft
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีทักษะเหล่านี้ได้โดยไม่ได้ผ่านการเรียนรู้หรือไม่มีประสบการณ์การทำงาน หากเรารู้แล้วว่าเราต้องพัฒนาทักษะอะไรเพิ่มเติม อย่าลืมที่จะหมั่นเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง บอกเลยว่าการทำงานในสาย Tech จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
อ้างอิง : https://www.fdmgroup.com/blog/top-5-most-in-demand-tech-skills-for-2023/#:~:text=According%20to%20Forbes%2C%20data%20communication,%2C%20visualisation%2C%20analysis%20and%20storytelling