วางแผนจัดการชีวิตและการเงิน สำหรับมนุษย์เงินเดือนทำงานได้อย่างไม่ต้องกังวลอนาคต
เพราะชีวิตคือความไม่แน่นอน โดยเฉพาะชีวิตของเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ต้องเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลง โดย 40% ของคนทำงานทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนงานอีก 3 – 6 เดือนข้างหน้าจากปัจจัยการทำงาน เช่น ไม่ได้รู้สึกเป็น Ownership ในงานที่ตัวเองทำ องค์กรไม่ได้ให้คุณค่ากับพนักงานมากพอ จึงทำให้คนทำงานบางคนเปลี่ยนงานหรืออยากได้งานใหม่ แต่การเงินของเหล่ามนุษย์เงินเดือนกลับกลายเป็นปัญหาที่มีสาเหตุมาจาก
- จำเป็นต้องลาออกจากงาน เพื่อมาจัดการชีวิตส่วนตัวหรือครอบครัว
- ขาดรายได้ ว่างงานมานาน แต่มีรายจ่ายที่ต้องแบกทุกเดือน
- ไม่ได้วางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้าในสถานการณ์ฉุกเฉิน
- แยกไม่ออกว่าสิ่งไหนจำเป็นและไม่จำเป็น และใช้จ่ายไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นจนหมุนเงินไม่พอใช้
- เงินหมดไปกับค่ารักษาพยาบาล ทุ่มเทกับการทำงานมากเกินไป จนมีปัญหาเรื่องสุขภาพและโรคต่าง ๆ ตามมา
- บริษัทปิดกิจการ ทำให้โดนเลย์ออฟ
แน่นอนว่าการทำงานหนัก มักพาเราไปเจอกับปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้อย่างเรื่อง “สุขภาพ” ซึ่งมาพร้อมกับค่ารักษาพยาบาลจนหลายคนต้องปวดหัวโดยเฉพาะคนที่ไม่มีประกันสุขภาพ บางคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่า อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของค่ารักษาพยาบาลนั้น สูงถึง 9% ต่อปีเลยทีเดียว ดังนั้น ทำให้ค่ารักษาพยาบาล 1 ล้านบาทในปัจจุบัน จะเป็น 2.36 ล้านบาท ภายใน 10 ปีข้างหน้า ยิ่งหากใครที่มีโรคประจำตัวที่จัดอยู่ใน 5 กลุ่มโรคร้าย เช่น โรคมะเร็ง โรคตับแข็ง โรคเกี่ยวกับหัวใจ เนื้องอกในสมอง และโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดในสมอง ก็จะยิ่งมีค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นและต่อเนื่อง
วันนี้ CareerVisa ชวนทุกคนมารู้จักการวางแผนจัดการชีวิตและการเงินให้คล่องตัว ไม่กลัวอนาคต
- พิจารณาและวางแผนการเงินให้รอบคอบ เพราะแต่ละวัยก็จะมีความเสี่ยงและความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น วัยเริ่มทำงาน มีภาระน้อย มีเวลาเก็บเงินเยอะ ต้องการเพิ่มรายได้เลยหันไปลงทุน แต่ในขณะเดียวกันก็รับความเสี่ยงได้สูง ส่วนวัยสร้างครอบครัว ดูแลหลายเรื่อง เริ่มมองความคุ้มครองมากขึ้น และรับความเสี่ยงได้น้อยกว่าวัยเริ่มทำงาน และสุดท้ายคือวัยสูงอายุ มีภาระไม่กี่เรื่อง แต่อยากได้เงินก้อนตอนปั้นปลายให้ใช้ตลอด และที่สำคัญก็คือต้องการลงทุนในความเสี่ยงต่ำด้วย
- หาแนวทางบริหารและจัดการเงินให้เป็นสัดส่วน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับสำหรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจนอาจจ่ายไม่ไหว โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาล
เพราะมนุษย์เงินเดือนทุกคนต้องการมีชีวิตที่ดีและเผชิญความเสี่ยงให้น้อยที่สุดในทุกสถานการณ์เพื่อให้ชีวิตยังคงเดินต่อไปได้ตามที่หวัง ดังนั้น การมองหาแผนการเงินที่เป็นการลงทุนระยะยาว และการคุ้มครองตลอดชีวิต ช่วยแบ่งเบาภาระของคนทำงานให้น้อยลง และได้เงินก้อนตอนเกษียณ - ศึกษาและเลือกประกันที่ช่วยจัดการและแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในชีวิตมนุษย์เงินเดือน ไม่ให้ป็นภาระเพราะค่ารักษาพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นตามความเสี่ยงของสุขภาพที่มากขึ้นตามอายุ ซึ่งส่งผลกับค่าเบี้ยที่จะสูงขึ้นตามสุขภาพที่เปลี่ยนไป จะดีกว่าหากเงินที่จ่ายสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาว เพื่อนำมาจ่ายค่าเบี้ยสุขภาพที่สูงขึ้นหรือรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้น เหมือนกับยูนิตลิงค์ มาย สไตล์ พลัส ประกันชีวิตควบลงทุนที่ให้เราสามารถถอนเงินคืนบางส่วนได้ เมื่อมีความจำเป็น หรือมีเงินไว้ใช้ตอนเกษียณ และอาจได้กำไรจากการลงทุน
- มองหาแผนที่ปรับเปลี่ยนได้ตลอด และเลือกให้เหมาะกับความต้องการที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของเรา เวลาเปลี่ยน ไลฟ์สไตล์ก็เปลี่ยนไปได้ตามความต้องการ ดังนั้น “ความยืดหยุ่น” กลายเป็นกุญแจสำคัญ หากเราเลือกหรือปรับได้ตามสัดส่วนในให้เข้ากับทุกช่วงชีวิตได้ จะทำให้เรามีเงินหมุนเวียนได้คล่องไม่ต้องกังวล เช่น หยุดพักชำระเบี้ยประกัน แต่ยังได้รับการคุ้มครองต่อเนื่อง* หรือปรับลดความคุ้มครองตามต้องการ
*กรมธรรม์จะมีผลบังคับต่อไปตราบเท่าที่มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนยังมีเพียงพอที่จะชำระค่าธรรมเนียมกรมธรรม์รายเดือน - ศึกษาเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ที่แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินของมนุษย์เงินเดือนได้จริง
แม้บางครั้งดูสิทธิประโยชน์ตอบโจทย์ แต่พอเกิดเหตุฉุกเฉินกลับใช้ไม่ได้จริงและเงื่อนไขเยอะจนกลายเป็นว่าเราต้องคนจ่ายเองหรือสำรองจ่ายก่อน ซึ่งอาจจะทำให้การเงินเรามีปัญหาได้และต้องแบ่งรับภาระหนักขึ้น
ดังนั้น 5 เทคนิคจัดการชีวิตที่เรานำมาให้กับทุกคนใช้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนจะสามารถนำไปใช้และเลือกแผนประกันที่เข้าใจทั้งการคุ้มครองและการลงทุนระยะยาว มีความยืดหยุ่น จ่ายเบี้ยได้ตามความต้องการ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้เต็มที่ ไม่มีกังวลทุกสถานการณ์ของแต่ละช่วงชีวิตด้วย ยูนิตลิงค์ มาย สไตล์ พลัส ประกันชีวิตควบลงทุนที่ตอบโจทย์ และเข้าใจมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา
Fact Insight : จากบทความของ Jobsdb พบว่า พนักงานจากหลากหลายอาชีพต้องการสวัสดิการรักษาพยาบาลที่ตอบโจทย์กับความต้องการของตัวเอง เพราะสาเหตุปัญหาล้วนมาจากการทำงาน เช่น พนักงานสายงานธนาคารมีความต้องการมากที่สุด 78.4% ซึ่งตรงกับการศึกษาของ McKinsey ที่พูดถึงมุมมองการให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพของคนทำงานจากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 85% ทั่วโลก พบว่า 62% ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพร่างกาย (Physical Health) เป็นอันดับต้น ๆ
อ้างอิง
https://rebrand.ly/6e8a0a
https://rebrand.ly/sickness
https://rebrand.ly/r1y7871
https://www.azay.co.th/…/cost-of-future-medical…
[โพสต์นี้ได้รับการสนับสนุนโดย Allianz Ayudhya]
Allianz Ayudhya เข้าใจมนุษย์เงินเดือนเป็นอย่างดีจึงได้ออกแบบประกันให้ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน ให้เข้ากับทุกสถานการณ์กับ ยูนิตลิงค์มาย สไตล์ พลัส ประกันชีวิตควบการลงทุน
- เหมาะกับคนทำงานทุกวัย ได้ทั้งคุ้มครองชีวิตและการลงทุนระยะยาว
- กรมธรรม์ที่มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนทุนประกันชีวิตได้ตามความต้องการ และจัดสรรเบี้ยประกันไปลงทุนได้ด้วย อีกทั้งสามารถซื้อแผนประกันเพิ่มได้
- สามารถอน และพักชำระเบี้ยได้ และความคุ้มครองยังคงอยู่ต่อเนื่อง ตราบเท่าที่มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนยังมีเพียงพอที่จะชำระค่าธรรมเนียมกรมธรรม์รายเดือน
หมายเหตุ:
- เงื่อนไขความคุ้มครอง และผลประโยชน์ เป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- แบบประกันยูนิต ลิงค์ ไม่ใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงจากการลงทุนในหน่วยลงทุน รวมทั้งไม่มีการรับประกันในผลตอบแทน โดยอาจได้รับเงินคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปได้
- เบี้ยประกันภัยจะถูกหักค่าใช้จ่าย และค่าธรรมเนียมตามกรมธรรม์ ก่อนนำไปลงทุน
- การหยุดพักชำระเบี้ย เมื่อชำระเบี้ย RPP ตามงวดการชำระเบี้ยประกันภัยครบ 2 ปี และกรมธรรม์มีมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพียงพอในการชำระค่าธรรมเนียมกรมธรรม์รายเดือน
- การถอนเงินบางส่วน จะทำให้มูลค่าบัญชีของกรมธรรม์ลดลง ลูกค้าควรศึกษาเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน
- ลูกค้าควรศึกษาในเงื่อนไข และผลประโยชน์ของกรมธรรม์ รวมถึงเงือนไข ตอบแทนและความเสี่ยงในการลงทุน ก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คลิก : https://life.azay.co.th/…/unit…/my-style-plus.html